◎"เป่าพรวดเดียว ตัวอักขระหายวับในพริบตา" .. หลวงปู่โต๊ะโชว์อิทธิฤทธิ์ถวายสมเด็จพระเทพฯ เพื่อยืนยันสิ่งที่ทรงคาพระทัย "ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่?"◎


"เป่าพรวดเดียว ตัวอักขระหายวับในพริบตา" 

"เป่าพรวดเดียว ตัวอักขระหายวับในพริบตา" .. หลวงปู่โต๊ะโชว์อิทธิฤทธิ์ถวายสมเด็จพระเทพฯ เพื่อยืนยันสิ่งที่ทรงคาพระทัย "ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่?"
หากมีผู้ใหญ่ ราชวงศ์ในระดับสูงได้เกิดถามเรื่อง “ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่?” กับพระอริยสงฆ์ หรือพระเกจิผู้ใหญ่ ก็คงอาจทำให้เกิดอาการ อึ้ง และอาจไม่หาวิธีตอบได้ในทันที แต่สำหรับ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ ท่านกลับมีวิธีที่ใครก็คาดไม่ถึงในเหตุการณ์เช่นนี้
ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไปนมัสการหลวงปู่โต๊ะ เมื่อปฎิสันถารกันพอสมควรแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ทรงตรัสถามว่า
"หลวงปู่คะ ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่คะ?"
ทำเอาหลวงปู่โต๊ะถึงกับอึ้ง แต่แค่พักเดียวหลวงปู่ท่านก็นึกออก หลวงปู่โต๊ะท่านได้หยิบปากกาข้างตัวท่าน มาเขียน อักระตัวนะ ที่ฝ่ามือ แล้วชูให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ดู
แล้วเอามือที่ลงนะนั้นมาเป่า แล้วชูให้ดูใหม่ ปรากฎว่าอักระนะที่ฝ่ามือท่านหายไปแล้ว และท่านก็ชี้ขึ้นไปบนขื่อ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทอดพระเนตรตามนิ้วหลวงปู่ ก็ทรงเห็นนะที่เมื่อครู่อยู่ที่ฝ่ามือหลวงปู่ ไปติดอยู่ที่บนขื่อแล้ว เป็นอันไม่ต้องอธิบายแล้ว


หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าประสบณ์การปาฏิหาริย์ที่ลอดจากคมกระสุนด้วบารมีของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
ประสบการณ์รอดตายจากคมกระสุนด้วยบารมีธรรมหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระนังคัจฉามิ
เมื่อปี พ.ศ.2537ขณะที่ผมและภรรยาลูกชายคนเล็กอายุสามเดือนพร้อมด้วยพี่สาวภรรยาได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากพัทยาเพื่อที่จะไปรับแฟนพี่สาวภรรยาซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่สนามบินดอนเมือง เครื่องลงเวลาประมาณเที่ยงคืนออกจากดอนเมื่องเที่ยงเศษขณะขับรถกลับตัวผมเองก็เกิดอาการเขม่นตาขวาสังหรใจไม่ดีมาตลอดทาง ในใจของผมคิดว่าคงจะต้องเกิดเรื่องอะไรเป็นแน่แต่ก็ไม่ได้บอกให้แฟนผมทราบระหว่างขับรถก็ได้สวดคาถาชินบัญชรในใจตลอดเวลาขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้คุ้มครองโดยเฉพาะหลวงปู่โต๊ะที่ผมและภรรยาแขวนอยู่ในคอ(ผมแขวนปิดตาปลดหนี้หลังยันต์นะใบลานภรรยาแขวนปรกใบมะขาม)


เมื่อขับก่อนจะถึงค่ายทหารรักษาพระองค์ซึ่งสมัยนั้นเปลี่ยวและมืดมากรถได้ถูกวางตะปูเรือใบโดยคนร้ายได้ตอกตะปูห้านิ้วไว้กับไม้หน้าสามวางสลับไปมารถผมก็เหยียบตะปูเข้าอย่างจังพอไม้หน้าสามถูกบังโคลนรถก็หลุดทำให้ยางฉีกขาดไม่สามารถวิ่งต่อไปได้จึงจำเป็นต้องค่อย ๆ บังคับรถให้เข้าข้างทางตอนนั้นเองที่ทำให้ผมรู้ว่ากำลังจะถูกปล้นแต่ผมจำเป็นต้องลงจากรถเพื่อไปเปลี่ยนยางอะไหล่เพื่อที่จะได้เดินทางกันต่อ ผมจึงลงจากรถพร้อมด้วยภรรยาและพี่เขยชาวญี่ปุนโดยให้พี่สาวภรรยาอุ้มลูกนั่งอยู่ในรถ ตอนนี้เองผมได้บอกกับภรรยาผมว่าให้ยืนดูสังเกตการรอบๆขณะที่ผมกำลังจะเปลี่ยนยาง ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็ให้รีบบอก

ยังไม่ทันไรก็มีรถที่ขับตามหลังผมมาถูกตะปูอีกหนึ่งคันแต่เขาก็ยังขับไปได้อีกประมาณ 50 เมตรห่างจากผมเป็นรถเก่า ๆ สีขาว ผมถอดน็อตยังไม่ทันหมดภรรยาผมก็บอกว่าเห็นผู้ชายสองคนแต่งชุดเหมือนพวกช่างกลเป็นวัยรุ่นเดินอยู่อีกฝั่งของถนนอ้อมไปยังรถคันที่จอดอยู่ข่างหน้าแต่ยังไม่ทันเดินไปถึงก็อ้อมกลับมาที่รถของผม


เมื่อเดินมาถึงวัยรุ่นทั้งสองคนก็เปิดชายเสื้อชักปืนขึ้นมาจ่อมาที่ผมสองกระบอกพร้อมกันวินาทีนั้นผมก็เอามือผลักภรรยาให้หลบอยู่ข้างหลังผม และภรรยาได้ผลักให้ชาวญี่ปุ่นลงไปหลบในคูข้างทาง หนึ่งในคนร้ายได้พูดขึ้นว่าเฮ้ย…มีของมีค่าอะไรถอดมาให้หมด ผมตอบไปทันทีว่า…กูไม่มีอะไรจะให้ภรรยาผมก็บอกต่อว่ากูก็ไม่มีอะไรจะให้…หนึ่งในคนร้ายก็ตะคอกมาว่าไม่ให้กูยิง….ซึ่งขณะนั้นในใจของผมได้สติระลึกนึกถึงบารมีหลวงปู่โต๊ะในใจว่า(ขอหลวงปู่โต๊ะช่วยลูกด้วย…)แล้วผมจึงพูดว่า..ถ้าแน่จริงยิงก็ยิงซิว่ะ…(เนื่องจากคิดว่าคงเป็นวัยรุ่นติดยาทั่วไปมาปล้นคงไม่กล้ายิงเป็นแน่และเดียวคงจากไปเอง) แต่ผิดคาด เพราะหลังจากสิ้นเสียงพูด ก็มีเสียงปืนก็ดังขึ้นต่อหน้า..ปัง!!..


ผมเห็นไฟแล็บจากปากกระบอกปืนแล้วก็รู้สึกชาที่ข้อศอกจนแขนสะบัดผมนึกว่าแขนคงหักในมือผมมีเหล็กที่ใช้เปลี่ยนยางผมก็ยกขึ้นกะจะตีสวน แต่ปืนอีกกระบอกด้านขวามือก็ดังขึ้นอี…ปัง!! ผมถูกยิงที่ไหปลาล้าเต็ม ๆจนหงายหลัง แต่ด้วยความที่ต้องปกป้องแฟนและลูกผมจึงตัดสินลุกกระโดดเข้าสู้ทั้งๆที่ถูกยิงสองนัด คนร้ายเห็นว่าผมถูกยิงสองนัดกลับไม่เป็นไรก็ตกใจพูดขึ้นว่า…เฮ้ยถอยแล้ววิ่งอ้อมไปทางหลังรถภรรยาก็ตะโกนว่า..ช่วยด้วย ๆ ถูกปล้น คนร้ายก็หันมายิงภรรยาผมอีกหนึ่งนัดถูกเข้าที่ขาจนกางเกงยีนทะลุแล้วคนร้ายก็วิ่งข้ามถนนเข้าซอยหายไป หลังจากเหตุการสงบผมรีบเข้าไปหาภรรยาที่ถูกยิงกลับปรากฏว่าไม่มีรอยเเผลเลยเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก

ต่อมามีรถกะบะและรถขายปลาหมึกปิ้งได้จอดให้ความช่วยเหลือจนผมเปลี่ยนยางเสร็จต่อจากนั้นผมก็ไม่ได้แจ้งความเพราะดึกมากตีสามกว่าอีกอย่างก็ไม่ได้เสียทรัพย์สินไปผมรีบขับรถเข้าตัวเมืองชลบุรีแวะร้านข้าวต้มที่มีแสงไฟสว่างเพื่อดูบาดแผลที่ถูกยิงปรากฏว่าที่ข้อศอกและที่ไหปลาร้าเป็นรอยบวมเท่าลูกมะนาวมีอาการขัดยอกเท่านั้นเองครับ….ถ้าไม่ใช่บารมีแห่งหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลีผมและภรรยาคงไม่มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้..ตั้งแต่ปี37เป็นต้นมาทุก ๆ ปีผมต้องกินเจถวายหลวงปู่เพื่อแสดงความกตัญญูถวายท่านและจะทำตลอดไป (ลูกปืนนัดแรกที่ยิงถูกแขนก็ได้แฉลบไปถูกประตูด้านซ้ายเป็นรอยหัวกระสูนเลยครับ…ปืนเป็นขนาดเก้ามม.ครับทั้งสองกระบอกที่ผมทราบเพราะผมเป็นทหารเรือครับ)ตอนนี้ผมและภรรยาลูกชายนับถือหลวงปู่กันทั้งบ้านเลยครับ…เรื่องโชคลาภก็ดีจริง ๆ ครับเคยไปกราบรูปหล่อที่วัดขอโชคจากท่านได้เลข19 ผมถูกเลขท้ายล๊อตเตอรี่ 17 ใบคร้บ นี่คืออีกเสี้ยวหนึ่งของบารมีหลวงปู่โต๊ะที่ผมได้ประสบกับตัวเองและครอบครัว ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่หลวงปู่ได้แผ่บารมีช่วยผมเอาไว้คราวหน้าผมจะเล่าให้ท่านทั้งหลายอ่านอีกครับ…ถ้าหากท่านใดมีโอกาสได้พระของหลวงปู่ขอจงเก็บรักษาไวดีเถอะครับบารมีท่านมากล้นจริง ๆ ความดีอันใดที่ผมได้ทำมาด้วยดีแล้วขอถวายให้หลวงปู่โต๊ะด้วยความเคารพบูชาสูงสุดครับ…


ฝากแถมให้อีกเรื่องนะครับเเฟนเพจ นักเลง โบราณ ที่รักทุกท่าน
ประสบการณ์ตรง พระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ
พระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ จากหนักเป็นเบา จากเบาสลายหายไป แคล้วคลาดยิ่งนัก

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง โดยเกิดขึ้นกับตัวผมเอง ตัวผมอยู่อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์. เมื่อเย็นวันพฤหัสที่ 20 ตุลาคม ผมไปซื้อกับข้าวที่พุเตย(เป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆไก่ย่างวิเชียรบุรี) กับภรรยาสุดที่รัก ขาไปไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นปรกติ ขับรถไปถึงร้านอาหารด้วยความปลอดภัย สั่งอาหารนั่งรอกันไปคุยกันไปเป็นปรกติ. แต่เหตุมันเกิดเมื่อตอนขากลับนี่แหละ ก่อนกลับก็ขึ้นรถ แต่แปลกครับ รถที่ว่าไม่เคยมีปัญหากลับสตาร์ทไม่ติด1จังหวะ (คงนึกภาพออกนะ บิดกุญแจแล้วดังแอดๆๆๆๆๆๆ) ก็เลยลองสตาร์ทใหม่อีกครั้ง แล้วก็ติดครับ ก็ขับรถกลับบ้านกัน ขณะเข้าโค้ง เป็นจังหวะที่แสงไฟเกาะกลางถนนมันมืดพอดี ผมก็ขับเข้าโค้งด้วยความเร็วโดยประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันมีรถสามล้อคนพิการโผล่แวบบบบบออกมาจากมุมมืดของแสงไฟ ผมเหยียบเบรกทันที เสียงเบรก เอี๊ยดดดดด ดังสนั่นหวั่นไหว ไทยมุงหันกันให้ควับ แต่เบรกแล้วมันก็ไม่พ้นครับ เสยเข้าท้ายรถสามล้อคนพิการอย่างจังในจังหวะก่อนที่รถหยุด ผมกับภรรยาก็รีบลงจากรถไปดูคนเจ็บพอดี ปรากฏว่า เขาไม่เป็นอะไรเลย แค่ถลอกนิดหน่อย ผมกับภรรยาเลยจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถจักรยานไปให้เขา เป็นจำนวนเงิน 2,000บาท


หลังจากวันนั้น ผมก็เลยเอาเลขทะเบียนรถของผมไปซื้อหวยหุ้น ปรากฎว่าถูกครับ ได้เงินมา 7พันกว่า หักค่าที่ให้เขาไป ค่าซ่อมรถเรา ก็หมดพอดี อิอิ จากเคราะห์หนัก ก็สลายกลายเป็นเบา ลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดว่า รถผมสตาร์ทติดตั้งแต่ครั้งแรก ออกตัวเร็วกว่านี้ 2-3วินาที จะเกิดอะไรขึ้น

ผมห้อยปิดตาจัมโบ้2 ส่วนภรรยาผมจัดให้ห้อย ปรกใบมะขามหลังยันตรี. เป็นพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะทั้งสิ้นครับ สำหรับครอบครัวผมศรัทธาในตัวหลวงปู่โต๊ะมากครับ (ตอนนี้ อายุผมกับภรรยาก็ใกล้ๆวัยเบญจเพศแล้วครับ เลยคิดว่ามันจะมีเหตุนู้นเหตุนี่ เคราะห์ใหญ่ เคราะห์เล็ก เคราห์น้อย หลายๆอย่างที่จะผ่านเข่ามาในชีวิต)
"หากเรามีศรัทธา ปาฏิหารย์ก็จะเกิด" สาธุ สาธุ สาธุ บารมีหลวงปู่โต๊ะคุ้มครองครอบครัวผม ผมจะยึดมั่น ถือมั่นในตัวหลวงปู่ตลอดไป
ผมนายจิตรภาณุ เยาวภา ขอรับรองว่าเป็นความจริงทุกประการ
ผมนักเลงโบราณ ตำนาน หนังเหนียว ขอรับรองว่าไสยศาตร์มีจริงทุกประการถ้าไม่มีจะเอาเรื่องเล่ามากมายที่ไหนมาเล่าให้แฟนเพจได้ศึกษากัน หรือว่าทุกจังหวัดในประเทศไทยจะเเต่งเรื่องกันเก่งจนนับไม่ถ้วนกันผมว่าคงจะไม่มีเป็นแน่

◎"เป่าพรวดเดียว ตัวอักขระหายวับในพริบตา" .. หลวงปู่โต๊ะโชว์อิทธิฤทธิ์ถวายสมเด็จพระเทพฯ เพื่อยืนยันสิ่งที่ทรงคาพระทัย "ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่?"◎ ◎"เป่าพรวดเดียว ตัวอักขระหายวับในพริบตา" .. หลวงปู่โต๊ะโชว์อิทธิฤทธิ์ถวายสมเด็จพระเทพฯ เพื่อยืนยันสิ่งที่ทรงคาพระทัย "ไสยศาสตร์มีจริงหรือไม่?"◎ on 23:13 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.