◎พระคาถาพระพุทธเจ้าปลดอาวุธมนต์ครุฑธาบารมีพระคาถาหมีสิ้นทาง◎

◎พระคาถาพระพุทธเจ้าปลดอาวุธมนต์ครุฑธาบารมีพระคาถาหมีสิ้นทาง◎

◎พระคาถา''ครุฑธาบารมี''◎

เดิมอยู่ในตำรับอาคมแห่งวัดประดู่ทรงธรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นคาถาที่หลวงพ่อฟัก วัดทำเลไท พระนครศรีอยุธยาสอนพระธุดงค์ที่ออกรุกขมูลสวดป้องกันงู

◎คาถาครุฑธาบารมี◎

อะระหังครุฑพุทโธ อะคะโตอัสสหมิง นาคะราชา อัปราชยา อัปเปหิ อสรพิษนามะ สัพะนาเค สัพเพนาคี อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สระณังคะโต

เมื่อต้องเข้าป่ารก ดงงู ดงตะขาบ เเมงป่อง ให้หยุดยืนภาวนาคาถานี้เพื่อปัดอสรพิษให้พ้นไปจากทางเดินด้วยอำนาจแห่งพระคาถานี้จะทำให้รอดจากการเหยียบงูจนถูกกัด เมื่อจะนอนค้างอ้างเเรมปักกลดก่อนจะนอนหรือจำวัดให้หาไม้ปลายแหลมมาขีด วงล้อมรอบที่พักนอนเป็นวงกลม ขณะขีดก็ภาวนาคาถาอย่าให้ขาด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตะขาบ เเมงป่อง แมลงพิษ จะไม่อาจเข้ามารบกวนได้เลย

◎พระคาถา''พระพุทธเจ้าปลดอาวุธ''◎

คาถานี้หลวงพ่อเดิมท่านมอบให้มา ท่านเล่าว่าเมื่อเทวทัตผิดหวังจากการเข้าไปกราบทูลขอให้สมเด็จพระบรมศาสดาทรงเเต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองพระสงฆ์ แต่สมเด็จพระชินสีห์ทรงไม่ทำตาม พระเทวทัตได้ไปจ้างนายขมังธนู 10 นายให้ดักยิงสมเด็จพระพุทธองค์ โดยให้คนที่สองฆ่าคนเเรกที่ปลงพระชนมืสมเด็จพระบรมศาสดาเพื่อปิดปากและฆ่ากันมาเรื่อยๆจนถึงคนที่สิบ พระเทวทัตได้บอกยามประตูว่าจะมีคนเข้ามาในเมืองเพื่อปลงพระชนน์ชีพพระเจ้าพิมพิสาร ให้ตัดหัว หมายถึงให้ตัดหัวนายขมังธนูคนที่ 9เพื่อปิดปากสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จพุทธดำเนินผ่านมา ก็กล่าวพระคาถานี้กับนายขมังธนูคนแรกไปจนถึงคนที่ 10 ทำให้ง้างธนูค้าง จนสมเด็จพุทธดำเนินผ่านมาประตูเมืองราชคฤห์จึงเคลื่อนไหวได้ วันรุ่งขึ้นจึงไปสารภาพผิดต่อสมเด็จพระบรมศาสดา และขออุปสมบทในพระบวรพุทธศาสนาจึงกลายมาเป็นพระคาถาพระพุทธเจ้าปลดอาวุธ

◎คาถาพระพุทธเจ้าปลดอาวุธ◎

สัตถา ธะนุง อะกัตทิตุง นาทาสิ นาทาสิ

ภาวนาขณะยิงต่อสู้หรือต้องวิ่งฝ่ากระสุนของศัตรูออกไป ให้ภาวนาคาถานี้ไว้ตลอดเวลาลูกปืนหรือสะเก็ดระเบิดจะเเคล้วคลาดไม่ต้องตัวผู้ที่ภาวนาคาถานี้เลย หรือเมื่อผ่านไปยังที่มีคนซุ่มยิงก็จะเกิดจังงังเหนี่ยวไกปืนไม่ได้ ไพฑูรย์เคยผจญมาเเล้วด้วยตัวเองหลายครา

พระคาถาคงกระพันชาตรีป้องกันมีดไม้หอกดาบแหลนหลาวง้าวโตมรที่เคยใช้ได้ผลมาตลอดเป็นคงกระพันชาตรีดีนัก

◎คาถามหาคงกระพันชาตรี◎

ตั้งนโม 3จบ

อิติปิโส พันเกษา ภะคะวา พันสรรพอาวุธ พุทโธอุด ธัมโมอุด สังโฆอุด พระพุทธังห้ามสรรพอาวุธ หยุดด้วยพระพุทโธ นะโมพุทธายะ

*ก่อนออกจากบ้านให้ร่ายพระเวทนี้ 3จบแล้วเป่าลมใส่ฝ่ามือลูบไปทั่วตัวจากศีรษะถึงปลายเท้าจะเป็นเกราะเพรชเกล็ดนิลป้องกันตัว

และบทสุดท้ายสำหรับวันนี้ที่ฝากให้เเฟนเพจได้ศึกษานั้นเป็นพระคาถาของหลวงพ่อช่วงวัดบางแพรกใต้ มอบให้ศิษย์ภาวนาเมื่อเข้าที่ขับขันถูกศัตรูรุมทำร้ายจนหาทางออกมิได้ให้ภาวนาในขณะต่อสู้ จะทำให้ศัตรูมองเห็นพวกเดียวกันเป็นศัตรู ตีกันเอง ทำให้เราสามารถแหกวงล้อมออกมาได้ เป็นพระคาถาที่พระพุทธเจ้าสมัยเมื่อเสวยชาติเป้นหมีพระโพธิสัตว์

◎พระคาถาหมีสิ้นทาง◎

มาระเสนา อัปปราชยา สะมันตา ทวาทะสะโยชะนา อธิษฐานนะวิตตัง เฉตวา จักขุมาตะโต

เมื่อภาวนาแน่วเเน่แล้วก็ลดเหลือ

มาระเสนา อัปปราชยา

ตีแหกแหวกทางไปเถิดศัตรู ทำอันตรายมิได้เลย

สำหรับการเรียนพระคาถาต่างๆให้เลือกใส่บาตรวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันครูเเละเป็นวันที่คนโบราณถือว่าเหมาะเเก่การเริ่มเรียนวิชาอาคมมากที่สุด เมื่อใส่บาตรเเล้วให้อุทิศส่วนบุญให้ครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาเพื่อขอประสิทธิ์ อีกใส่อีกขันธ์ให้แก่อาจารย์ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม เพื่อขอประสิทธิ์อีกท่านเเล้วจึงเริ่มท่องจำจะขลังนักแล #นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

◎พระคาถาพระพุทธเจ้าปลดอาวุธมนต์ครุฑธาบารมีพระคาถาหมีสิ้นทาง◎ ◎พระคาถาพระพุทธเจ้าปลดอาวุธมนต์ครุฑธาบารมีพระคาถาหมีสิ้นทาง◎ on 07:30 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.